เคาท์ดาวน์ ส่งท้ายปี เปิดใจวัยรุ่นปาร์ตี้ปีใหม่
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทุกคนบนโลกล้วนเฝ้ารอนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ รวมถึงสามวัยรุ่นไทยในนิวยอร์ค ที่แชร์ห้องอยู่ร่วมกัน?ปลายปีนี้ ชีวิตของคุณ?อาจถูกเปิดเผยออกมา?ในปาร์ตี้ส่งท้ายปี ?ชายแปลกหน้า?จะนำคุณนับถอยหลัง?สู่ความสนุก มันส์ สะใจ?ระแวงสุดๆ เจ็บสุดๆ กดดันสุดๆ?ตัวตนแท้จริงจะถูกเผย ?ความผิดที่ปกปิดจะปรากฏ ?ขาและเธอจะไม่พบ ทางหนี จะไม่เจอทางรอด ?รับ เทศกาลปีใหม่?ภาพยนตร์ ตื่นเต้น เขย่าขวัญ วัยรุ่น?COUNTDOWN ?? เคาท์ดาวน์ ?
เคาท์ดาวน์ ( COUNTDOWN ) ??4?3…2?1?
- แจ็ค ( พีช พชร จิราธิวัฒน์ ) หนุ่มไฮโซที่โกหกคนที่บ้านว่ามาเรียนต่อ แต่กลับใช้เงินเที่ยวเล่นไปวันๆ
- แพม ( พีค ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ ) สาวเปรี้ยว หัวสูง ที่ใช้ของหรู เพื่อตัวเองจะได้ดูดีในสายตาคนอื่น
- บี ( เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ ) แฟนสาวของแจ็ค ที่ไม่เคยบอกใครว่าเธอมาที่นี่เพราะอะไร
ทั้งสามอยากจัดปาร์ตี้ให้สนุกสุดเหวี่ยงส่งท้ายคืนวันสิ้นปี แจ็ค เลยโทรเรียก เฮซุส ชายฝรั่งแปลกหน้า ผู้เป็นดีลเลอร์ส่งยาให้มาหาที่ห้อง เพื่อมอบความสุขอันหฤหรรษ์ให้พวกเขาเสพ โดยต่างไม่มีใครรู้ว่า จริงๆแล้วเขาเป็นใครกันแน่ แต่การมาเยือนของเขา จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล ตัวตนแท้จริงจะถูกเผย ความผิดที่ปกปิดจะปรากฏ เขาและเธอจะไม่พบ ทางหนี จะไม่เจอทางรอด และจะไม่มีทางหลุดพ้นจากเงื้อมมือของชายที่เปรียบดั่งปีศาจคนนี้ไปได้
??4?3…2?1? ทั้งสามกำลังนับถอยหลัง โดยต่างไม่รู้ว่า วันใหม่ของพวกเขา จะยังมีอยู่อีกหรือไม่?
สัมภาษณ์เปิดใจ เคาท์ดาวน์ ส่งท้ายปี
เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ
บทหนัง? เคาท์ดาวน์ ? โครงเรื่องสุดเจ๋ง? ตอนแรกพี่บาสกับพี่เก้ง เล่าเรื่องให้เต้ยฟังว่า เคาท์ดาวน์ เป็นหนังแนวไหน ทำให้เต้ยรู้ว่าเค้าโครงของหนังมันเจ๋งมาก ยิ่งพอได้อ่านบทก็ยิ่งชอบ รู้สึกอินมาก เพราะคาแร็คเตอร์ของ ?บี? ที่เต้ยได้เล่นน่าสนใจ เป็นบทที่ท้าทายมากๆสำหรับเต้ย
เต้ยตัดผมสั้น เพื่อหนัง ? เคาท์ดาวน์ ? เริ่มจากที่เต้ยต้องเปลี่ยนลุค ต้องตัดผมสั้น จนถึงวันนี้ก็ยังมีคนถามอยู่ว่าไปตัดผมมาทำไม มีหลายฟีดแบ็คมากทั้งชอบและไม่ชอบ ตอนแรกๆก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนตุ๊ดเด็กมาก ยิ่งเวลาไม่แต่งหน้าจะเหมือนเด็กผู้ชาย แต่พอได้มาเล่นมาเข้าฉากจริงๆ รู้สึกว่ามันคุ้มค่ามากที่ยอมตัดผมทิ้งไปเพื่อเล่นหนังเรื่องนี้
พีช-พีค ทีมเวิร์คสำคัญในหนัง เคาท์ดาวน์ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เต้ยได้ร่วมงานกับพีช ก่อนหน้านี้เคยเจอกันมาบ้าง พีชเป็นคนที่น่ารัก อารมณ์ดี อยู่ในกองถ่ายก็จะคอยสร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคน ส่วนพี่พีค เคยทำงานด้วยกันมาแล้ว เจอกันอยู่บ่อยๆ ในการทำงานของหนังเรื่องนี้ เต้ยรู้สึกว่าทุกคนอินกับคาแร็คเตอร์กันหมด เวลาเล่นอะไร ก็จะคอยรับส่งให้กันและกัน ซึ่งทุกอารมณ์มันมีผลต่อการแสดงมากๆ ทั้งพีชและพี่พีค เราคือทีมเวิร์ค หลายครั้งที่เต้ยแสดงออกมาได้ เป็นเพราะอารมณ์ที่รับมาจากทั้งสองคน
ร่วมงานกับพี่บาสผู้กำกับใหม่ พี่บาสเสนอบทที่มันแตกต่างมากมาให้เต้ย พอได้รู้เรื่องราวทุกอย่าง ทำให้เต้ยรู้สึกว่าบทมันเจ๋งมาก พอได้อ่านบทอีกรอบ ก็ทำให้คิดว่าทั้งหมดนี้มันออกมาจากสมองของเขาได้ยังไง เป็นบทที่ดีมากๆ และถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่ทุกคนจินตนาการออกมา คงจะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก
โลกสีเทาของ เต้ย สำหรับเต้ย บทของบี มีความน่าสงสาร โลกทั้งโลกดูเป็นสีเทาไปหมดเลย บอกตามตรงตอนที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ติดๆกัน เต้ยจะเป็นคนที่นิ่งมาก จะเงียบๆไปเลย เหมือนได้รับอิทธิพลของบีมาด้วย ตอนเลิกกอง จะพยายามบอกตัวเองว่าเราเป็นคนละคนกันนะ แต่ก็จะมีความอึมครึมในความรู้สึกของเต้ยตลอด เหมือนเราเริ่มอินไปกับคาแร็คเตอร์
ทุ่มเทสุดตัวให้ฉากสุดโหด เรื่องนี้เต้ยทุ่มสุดตัว ใช้วิชาการแสดงที่เคยร่ำเรียนมา เอาทุกประสบการณ์ที่เคยผ่านงานต่างๆมาใช้ในการเล่นบทนี้ พอได้มาเล่นจริงก็ยิ่งชอบ เรื่องค่อนข้างเข้มข้น เพราะมีฉากโหดๆเยอะมาก แต่ทุกอย่างมีการซักซ้อมมาเป็นอย่างดี ทำให้ทุกอย่างดูสมจริง
คิวบู๊ครั้งแรกในชีวิต แต่ผิดคิว!! มีอยู่ฉากหนึ่งที่ต้องหนีตาย มีพลาดนิดหน่อย ตรงที่เท้าตรงนิ้วก้อยของเต้ยโดนนั่งทับเต็มๆ ช่วงนั้นเท้าเต้ย ทั้งช้ำ และเขียวไปหมดเลย แต่ไม่เป็นไร แค่อุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆไม่เจ็บมาก และมีอีกคิวบู๊ที่ต้องเจอ เป็นช่วงเวลาที่ต้องลุ้น ว่าจะโดนทุ่มลงพื้นไหม จู่ๆก็โดนเหวี่ยงลงมา เป็นจังหวะที่เต้ยยังประคองตัวไม่ทัน คือมันเร็วมาก แขนก็เลยไปกระแทกขา เป็นคิวบู๊ครั้งแรกในชีวิต ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้
เต้ยน้ำตาแตก..เจอฝูงแมลงสาบรุม ตอนอ่านบทโดยรวม คืออ่านไปแล้วแทบจะวางไม่ลง อยากเล่นทุกฉาก แต่มีอยู่ซีนนึงที่เต้ยอ่านแล้วร้องเฮ่อ..ก็คือซีนที่ฝูงแมลงสาบค่อยๆพร่างพรูมารุมเต้ย ตอนแรกเต้ยคิดสภาพไม่ออกว่าจะถ่ายอย่างไร เป็นการจินตนาการคร่าวๆ พอวันจริงที่ต้องถ่าย เต้ยร้องไห้ออกมาจริงๆ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะสนิทกับแมลงสาบได้ขนาดนี้
พรปีใหม่ หนังรสชาติใหม่ หนังเรื่องนี้จะเข้าช่วงปีใหม่พอดี หนังเคาท์ดาวน์ เป็นหนังต้อนรับปีใหม่อีกแนวนึง เป็นพรปีใหม่ ที่ไม่ค่อยเห็นใครทำ หนังเรื่องนี้ทุกคนตั้งใจทำเต็มที่มากๆ ตัวเต้ยเองก็ตั้งใจทำมากๆ หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังวัยรุ่นทั่วไป แต่เป็นหนังที่สอนอะไรเยอะมาก ก็อยากให้วัยรุ่นและผู้ใหญ่มาดู อาจค่อนข้างเสี่ยงเหมือนกันในสังคมไทย ด้วยบทบาทที่เต้ยเล่น แต่เต้ยคิดว่าหนังเรื่องนี้ทำมาเพื่อที่จะเสนออีกแง่มุมนึงของคนเรา ที่ชอบตัดสินคนแค่แวบเดียว หรือฟังจากคนอื่นมา อ่านเจอในอินเตอร์เน็ต หรือสื่อออนไลน์ ตัวละครจะสะท้อนบางอย่างออกมาให้เราได้คิด ได้ทบทวนตัวเองให้ลึกซึ้ง
หนัง เคาท์ดาวน์ เหมือนครู คนดูคือนักเรียน เต้ยว่า เคาท์ดาวน์ เป็นหนังที่โหด ที่คนดูจะรู้สึกสะใจ รู้สึกมันส์ รู้สึกลุ้นตลอด และเป็นหนังที่ทำให้เราเห็นมุมมองของคนที่เป็นคนจริงๆ วัยรุ่นจริงๆ เหมือนเวลาที่เรามานั่งย้อนดูสมัยเด็กๆที่คุณครูชอบดุ ชอบว่า หรือแม้แต่ใครก็ตามที่ชอบว่าเรา ทำให้เรารู้สึกแย่ วันหนึ่งผ่านไปเราจะรู้สึกขอบคุณสิ่งที่มันเคยเกิดขึ้น อาจเป็นสิ่งที่แย่ๆในอดีต แต่มันคือสิ่งเตือนใจในปัจจุบัน เหมือนในหนังเคาท์ดาวน์ เต้ยมองว่าหนังเรื่องนี้เปรียบเสมือนคุณครู ส่วนคนดูเหมือนนักเรียน คุณครูที่ดูใจร้ายชอบดุ ก็เพราะอยากให้นักเรียนได้ดี
พีชพชร จิราธิวัฒน์
ตัดสินใจเล่น ตั้งแต่ยังไม่เห็นบท ตอนรับเล่นหนังเรื่องนี้จริงๆตั้งแต่ยังไม่เห็นบท พอได้เข้าไปคุยกับผู้กำกับ พี่บาสก็เล่าเรื่องย่อให้ฟัง พีชเลยสนใจ เพราะรู้สึกว่ามันแปลกใหม่และท้าทายมาก ก็เลยตัดสินใจเล่น ส่วนเรื่องที่คนจะรับได้ไหมกับบทแรงๆ พีชไม่ได้มองแบบนั้น เพราะว่าหน้าที่เราคือนักแสดงที่ต้องทำให้ดีที่สุด
เวิร์คช็อป ตีซี้ เล่นเป็นแฟนเต้ย พีชกับเต้ยสนิทกันอยู่แล้ว พอต้องมาเล่นเป็นแฟนกัน ก็แอบคิดว่ามันจะเวิร์คไหม เขินบ้างนิดหน่อย ก่อนหน้านี้ที่ต้องเข้าฉากเลิฟซีนด้วยกัน ก็มีการทำเวิร์คช็อปให้เราสนิทกันมากขึ้น มีการคุยกันก่อนว่าเราต้องเชื่อใจกัน ตอนแรกๆที่ซ้อม เล่นกันแข็งมาก พอได้มาเล่นจริงก็จะขำๆ อยากหัวเราะ แต่สุดท้ายก็มานั่งคุยกัน พยายามแก้ความเขินให้ได้มากที่สุด
ร่วมงานกับพีค พี่สาวใจดี พี่พีคเป็นคนที่ร่าเริงมากครับ เป็นคนที่จะคอยเอ็นเตอร์เทนทุกคนในกลุ่มเรา เป็นคนใจดีที่ชอบเอาขนมมาให้ทุกคนกิน หลังจากปิดกล้องเสร็จ ทุกทีที่ว่างก็อยากกลับมาเจอกันบ่อยๆ พีชชอบนัดกับพี่พีคว่าถ้าว่างเมื่อไหร่ก็มาเจอกันนะ เพราะพีชว่าหนังเรื่องนี้ถ่ายทำกันไม่นาน เลยรู้สึกไปเองว่ามันเร็วไป เคยไปถามพี่เก้งเล่นๆเหมือนกันว่าเรายืดเรื่องกันอีกนิดไหม เพราะยังสนุกอยู่เลย
พี่บาส ผู้กำกับแนวบ้าพลัง พี่บาสเป็นคนที่คิดอะไรแปลกๆออกมาได้ดี มีความละเอียดในการทำงานสูง วันแรกที่คุยกันไม่คิดว่าจะสนิทกันได้ แรกๆในการคุยจะดูเป็นทางการมาก หลังจากนั้นก็เริ่มสนิทกันเรื่อยๆ เพราะได้คุยกันมากขึ้น ด้วยความที่กองนี้มีผู้ชายแค่ไม่กี่คน เราก็เลยซี้กัน พี่บาสทำงานละเอียดมาก อาจเป็นเพราะเคยทำงานในวงการโฆษณามาก่อน ทำให้พี่บาสเนี๊ยบมาก ถ้าไม่ได้ก็ต้องเทคใหม่ เพื่องานที่ออกมาสมบูรณ์ที่สุด
อารมณ์ดี ไฮเปอร์ มองโลกในแง่บวก มีบางอย่างของตัวละคร ?แจ็ค? ที่ใกล้เคียงกับพีช ในด้านของความอารมณ์ดี ไฮเปอร์ และการมองโลกในแง่บวก เห็นทุกอย่างเป็นด้านบวกไปหมด มองทุกสิ่งเป็นเรื่องสนุก เป็นตัวละครที่ร่าเริงมากๆ ตอนที่เล่นพีชรู้สึกรักตัวละครนี้มาก จนรู้สึกอินกับคาแร็คเตอร์ไปเลย
คิวบู๊ โหดที่สุด ยากที่สุด ช่วงแรกที่ต้องใช้ร่างกายในการบู๊ ค่อนข้างยากมากเพราะพีชไม่เคยเล่นมาก่อน ไม่เคยมีความรู้หรือความสามารถด้านการป้องกันตัว คือถ้าปกติถ้าต้องต่อสู้ ก็คงสู้ไปแบบมั่วๆ แต่เรื่องนี้ต้องมีการเรียนมวย เรียนสตั๊นท์แบบจริงๆจังๆ ซึ่งมันค่อนข้างยาก ช่วงนั้นพีชต้องไปออกกำลังกายเยอะมาก ต้องวิ่งเยอะขึ้น เพื่อฟิตร่างกาย เข้าฉากต่อสู้ ถือเป็นช่วงที่หนักมาก และเหนื่อยมากจริงๆ
ซีนยาก ร้องไห้สติแตก!! ช่วงต่อมาก็เริ่มยากขึ้นเพราะต้องเล่นดราม่าหนักๆ หนังเรื่องนี้เป็นอารมณ์ดราม่าที่แปลกกว่าปกติ ไม่เหมือนคนที่รู้สึกเศร้า มีฉากหนึ่งที่พีชคิดว่าอาจเล่นไม่ได้แน่ๆ คือฉากที่ต้องร้องไห้ ซึ่งพี่บาสกำชับว่าต้องร้องไห้อย่างสติแตกที่สุด ซึ่งพีชไม่เคยมีมุมนี้เลยในชีวิตจริง ในชีวิตนี้ไม่มีทางคิดเลยว่าต้องมาเจอกับประสบการณ์แบบนี้ เลยกังวลว่าจะทำได้หรือเปล่า แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ฝากหนังแนวใหม่ ให้มากกว่าความบันเทิง อยากให้ทุกคนเปิดรับบางอย่าง เพราะหนังเรื่องนี้ค่อนข้างใหม่ แปลกและไม่เคยมีมาก่อน อยากให้ทุกคนมาดู แล้วจะรู้ว่าพวกเราเต็มที่มาก ปกติหนังก็ทำมาเพื่อความบันเทิงอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้อยากจะให้อะไรที่มากกว่าความบันเทิง อาจเป็นประโยชน์ในการเริ่มต้นปีใหม่ที่มีความสุขของใครหลายคน เพราะทุกปีเราก็ชอบที่จะเริ่มด้วยการพูดว่าจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ ตั้งใจไว้ ซึ่งตั้งแต่พีชเกิดมา พีชรู้สึกว่าไม่เคยทำมันได้เลย และน้อยคนมากนะที่จะทำได้ หนังเรื่องนี้ เหมือนจะบอกให้เรารู้ว่า ถ้าตั้งปณิธานไว้แล้ว เราก็ควรจะทำมันให้ได้ และเป็นหนังที่สอนให้รู้ว่าพรุ่งนี้มันสำคัญมาก ชีวิตในการตื่นนอนมาเพื่อวันต่อๆไปมันสำคัญ เพราะฉะนั้นต้องทำให้มันดี อยากฝาก เคาท์ดาวน์ ไว้เป็นคู่มือประจำบ้านสำหรับทุกคน
พีคภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ
เวิร์คช็อปการแสดง จนอินคาแร็คเตอร์ มีการทำเวิร์คช็อป กันมานาน ตอนแรกพีคแค่เข้าใจตัวละคร พอเวลาผ่านไป เริ่มใกล้จะเปิดกล้องแล้ว มีอยู่วันหนึ่ง ภาพในหัวพีค กับตัวละคร ?แพม? ค่อยๆชัดขึ้นมาเรื่อยๆ มันคงสะสมมาจากการเวิร์คช็อป ก่อนหน้านี้ที่มองภาพไม่ออก เพราะทุกคนยังไม่ได้มารวมตัวกัน พอวันหนึ่งที่เราเห็นภาพอยู่ในหัว ขบวนการความคิดทุกอย่างเลยออกมา พอเห็นภาพรวมปุ๊บ ทุกคนเลยพร้อมลุยกันมาก เป็นการทำงานที่พีคแค่ตื่นเต้น แต่จะไม่กดดันตัวเอง
บทท้าทาย ตั้งใจสุดตัว พออ่านบทแล้วรู้สึกชอบ บทของแพมเป็นบทที่ค่อนข้างไกลตัวมาก ทำให้พีครู้สึกอยากเล่น เพราะเป็นบทที่แตกต่างออกไปจากเดิมๆ ซึ่งมีหลายฉากที่มันท้าทาย ถ้าเราทำได้ และผ่านมันไปได้ จะรู้สึกดีมาก เรื่องนี้พีคตั้งใจทำงานมาก อยากให้งานออกมาดีที่สุด เลยทำเต็มที่ที่สุด พอเข้าฉาก ก็จะกลายเป็นแพมเลย คาแร็คเตอร์ชัดเจนมาก พี่บาสเปิดโอกาสให้พีคได้ลองเพิ่มเติมและดีไซน์การแสดงเข้าไปได้ ซึ่งพอทุกอย่างเข้าที่แล้วเลยทำให้พีค รู้สึกอินกับบทสุดๆ
เต้ย-พีช ส่งอารมณ์ กับพีชพอได้มาร่วมงานกันก็สนุกมาก เคยได้เจอกันมาก่อนที่บริษัท พอมาร่วมงานกัน ได้มาทำเวิร์คช็อปด้วยกัน ทำให้ซี้กันมากขึ้น เวลาเล่นก็เลยจะอินเข้ากันได้ดี ส่วนเต้ยจะมีแค่ช่วงแรกๆเท่านั้นที่เล่นกันตอนเบรคกอง แต่พอช่วงหลังๆที่ดราม่าหนักๆ ก่อนเข้าฉากทุกคนมักจะแยกย้ายไปทำสมาธิเตรียมตัวก่อนเข้าฉาก พอเข้าฉากจริงทั้งเต้ยพีชก็จะช่วยรับส่งอารมณ์ให้กับพีคด้วย เป็นการทำงานเป็นทีมที่สนุกมากๆ
พี่บาส จอมละเมียด ตอนแรกๆที่พีคไปคุยกับพี่บาส เขาก็ยังมองไม่ออกเหมือนกันว่าพีคจะเป็นแพมได้อย่างไร คือมันไกลตัวพีคมาก จะเป็นอีกคาแร็คเตอร์หนึ่งเลย พอเล่นให้พี่เขาดู คือเราเป็นได้ แล้วพอเราเข้าฉากเล่นเป็นแพมจริงๆ พี่บาสก็ชอบพูดบ่อยๆว่า พีคดูเป็นแพมมาก หนังเรื่องนี้พี่บาสจริงจังกับการทำงานมาก ถ้าเขียนบทแบบนี้มา พอตอนถ่ายจริง ดีแล้วแต่อาจยังไม่พอ ต้องดีขึ้นอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี พีคชอบการทำงานแบบนี้ เพราะทำให้เราพยายามทำให้ดีขึ้น ดีให้ถึงระดับที่พี่เค้าพึงพอใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ที่พี่เขาเคี่ยวเข็ญให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด
ผู้หญิงตัวเล็กๆกับฉากบู๊สุดโหด ดราม่าเข้มข้น มีฉากที่ต้องเจ็บตัวบ้าง เล็กๆน้อยๆ ออกแรงกันบ้าง บางฉากก็ทุลักทุเลสุดๆ มีซีนที่หนัก ที่โหด แล้วอารมณ์ก็ขึ้นไปเรื่อยๆ ช่วงหลังๆจะหนักตลอดกลับบ้านไปจะหลับตลอด คือมันหลายอารมณ์มากทั้ง หวาดกลัว ร้องไห้ ใช้พลังจนหมด เลยทำให้รู้สึกว่าเหนื่อยมาก บางวันเจอบทดราม่าหนักๆ ก็แอบเครียด ตอนนั้นเหมือนอารมณ์ค้างกลับไป แล้วต้องไปนั่งร้องไห้ต่ออีกนิดหนึ่ง คือตอนแรกมันร้องไม่ออก ไม่มีน้ำตาแล้ว แต่มันยังแน่นหน้าอก รู้สึกอึดอัดมาก ก็เลยพยายามร้องไห้ออกมา เหมือนระบาย พยายามเค้นให้ร้องออกมา พอร้องออกมาแล้ว มันก็หาย เพราะช่วงนั้นสะสมอารมณ์ติดๆกันมาหลายวันเกินไป
พีคคอนเฟิร์ม หนัง เคาท์ดาวน์ สนุกสะใจ!! ตอนที่อ่านบทสนุกมาก แต่พอตอนถ่ายจริงพีคว่าสนุกกว่าที่ได้อ่านอีก และเชื่อว่าหนังออกมาต้องสนุกแน่ๆ พวกเราทุ่มเทและตั้งใจมากๆจริงๆ คนดูจะได้เห็นพัฒนาการด้านการแสดงของเราทุกคน ในบทที่แตกต่างกัน ซึ่งถ่ายทอดกันออกมาเต็มที่ ให้สมกับเป็นคืนเคาท์ดาวน์ที่ตื่นเต้น สะใจไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งพีคเชื่อว่าทุกคนน่าจะชอบกัน เพราะหนังเรื่องนี้เตือนใจให้รู้ว่า ทุกการกระทำของเรามีผลต่ออนาคตเสมอ เพราะฉะนั้นจะทำอะไรต้องมีสติให้ดี
บาสนัฐวุฒิ พูนวิริยะ (ผู้กำกับ)
หนัง เคาท์ดาวน์ จุดเปลี่ยนชีวิต เคานท์ดาวน์ เป็นหนังที่เปลี่ยนชีวิตผม เมื่อพี่เก้ง-จิระ มะลิกุล และพี่วัน-วรรณฤดี ได้ดูหนังสั้นของผมที่เคยทำที่นิวยอร์ก แล้วสนใจโทรศัพท์มาหาผม บอกว่าบาสอยากทำหนังใหญ่ไหม ผมดีใจมาก มันเหมือนฝัน ผมทิ้งทุกอย่างที่นิวยอร์ก บินกลับมาเมืองไทย เพื่อเตรียมเขียนบท และทำหนังเคานท์ดาวน์ ผมได้ไอเดียและแรงบันดาลใจมาจากชีวิตของผมกับเพื่อนที่นิวยอร์ก ในคืนที่เราปาร์ตี้อย่างสนุกสนาน ผมมีภาพหนังเรื่องนี้ในหัวทันที พอตื่นเช้ามาทุกอย่างมันเป็นภาพที่ชัดเจน เลยนำเอาเรื่องนี้มาเสนอพี่เก้ง พี่วัน เพื่อพัฒนาบทให้เป็นหนังใหญ่ ซึ่งพี่เก้งกับพี่วันมีส่วนช่วยเยอะมาก
ภาพจินตนาการในหัวสู่ตัวจริง เต้ย-พีช -พีค
- เริ่มจากคนแรกเต้ย ผมเห็นน้องเขามานานตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆตามสื่อต่างๆ รู้สึกว่าเขาเป็นเด็กน่ารักมากเป็นวัยรุ่นที่สดใส แรกๆก็ไม่แน่ในว่าบทนี้จะเหมาะกับเขาหรือเปล่า จนกระทั่งได้ไปอ่านบทสัมภาษณ์ของเต้ยในนิตยรสารเล่มหนึ่ง พออ่านเสร็จรู้สึกกว่าเด็กคนนี้ฉลาด และมีความคิดที่ค่อนข้างลึกซึ้ง พอคุยแล้วก็มั่นใจว่าต้องเป็นเต้ยนี่แหละที่จะมารับบทบี
- จากนั้นก็ได้มาเจอกับตัวละครแจ็คคือพีช เหตุผลที่เลือกพีช เพราะพีชมีความเป็นผู้ใหญ่มีความคิดละเอียดอ่อน ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะเป็นหนังวัยรุ่นแต่ก็ต้องให้ความสามารถบางประการที่จะนำเสนออารมณ์ออกมาได้ ซึ่งพีชมีข้อดีตรงนั้น และที่สำคัญคือมีความตั้งใจมาก ขยัน เต็มที่ทุกขั้นตอนเกินร้อยเปอร์เซ็น
- คนสุดท้ายพีค สาเหตุที่นึกถึงพีคเลยก็คือ ภายนอกของพีคค่อนข้างจะตรงกับบท ในเรื่องพีคจะต้องรับบทเป็นสาวสวยมีเสน่ห์ พีคมีอย่างหนึ่งที่นักแสดงหลายคนอาจไม่มี คือ พีคมีความสดทางด้านการแสดง เมื่อไหร่ที่ปล่อยให้เขาทำความเข้าใจกับบทปล่อยให้เขาเล่นในแบบที่พีครู้สึก พีคจะให้ในสิ่งที่เราคาดไม่ถึงอย่างเป็นธรรมชาติมาก ก็เลยมั่นใจว่าบทแพมต้องเป็นพีคเท่านั้น
ทำเวิร์คช็อป ค้นหาคาแร็คเตอร์ที่ใช่ ตอนทำเวิร์คช็อป เพื่อนผมที่จบด้านแอ็คติ้งโดยตรงจากนิวยอร์ค ก็บินมาช่วยเรื่องการแสดง ผมบอกครูไปว่าอยากเห็นคาแร็คเตอร์อะไรบางอย่างจากนักแสดง 3 คนนี้ การทำเวิร์คช็อปเลยค่อนข้างสำคัญ ครูเค้าก็จะมีวิธีการที่ลึก โดยเฉพาะในแง่ของดราม่า มีวิธีการเตรียมความพร้อมให้ตัวละครที่ละเอียดมาก จากการเวิร์คช็อปสู่การถ่ายทำจริง ใช้เวลาเยอะเหมือนกันในการปรับตัว พอเวลาผ่านไป ภาพของคาแร็กเตอร์ของ บี แจ็ค แพม ก็ค่อยๆชัดขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครก็ค่อยๆชัดเจนขึ้นกว่าเดิม จนกระทั่งวันถ่ายจริงทุกคนก็ทำออกมาได้ดี
เต้ยลุยคิวบู๊ สู้สุดตัว!! ตั้งแต่ตอนเวิร์คช็อปเริ่มซ้อมคิวบู๊กัน ผมยังรู้สึกว่าโหดมากเลย ที่ผู้หญิงตัวเล็กบอบบางอย่างเต้ย ต้องโดนเหวี่ยงลงพื้น ผมยังคิดเลยว่า ทำไรลงไป แต่ว่าเต้ยก็อินกับบทมาก และนักแสดงทุกคนเต็มที่ ผมรู้ว่ามันเหนื่อย แต่เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่หนังต้องการ ทุกคนพร้อมที่จะไปด้วยกัน ตอนกำกับไม่ค่อยห่วง เพราะเราผ่านการซ้อมจนผมและนักแสดงค่อนข้างมั่นใจ เลยไม่มีอะไรน่ากลัวเกินเหตุ
ไร้คำนิยาม สำหรับ พีช พชร ผมไม่สามารถหาคำนิยามให้พีชได้ บอกได้แค่ว่าพีชเป็นเด็กไฮเปอร์ ขยันขันแข็ง ตั้งใจ แต่ก็จะมีมุมแบบเด็กวัยรุ่น เป็นความน่ารักของคาแร็กเตอร์ของเขา ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในซีนที่เครียดขนาดไหนก็ตาม เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมสั่งคัท พีชก็จะเดินมาแล้วก็แบบ เย่ๆๆ สร้างความคึกคักขึ้นมาในกองทันที แต่ว่าพอเข้าฉากปุ๊บ พีชก็จะเปลี่ยนโหมดเป็นเต็มที่ตลอดเวลา
พีคเล่นได้ใจ เป็นธรรมชาติสุดๆ พีคเป็นคนที่มีความตั้งใจ ขยันมาก เต็มที่กับทุกฉาก ซึ่งการกำกับพีคง่ายมาก แค่บอกว่าซีนนี้ สิ่งที่ต้องการคืออะไร จุดประสงค์คืออะไร ที่เหลือจะเล่นอะไรก็ให้พีคดีไซน์ออกมา ไม่เกิน 2 เทค พีคจะแสดงออกมาเป็นธรรมชาติ ดีมากจนเราอาจคาดไม่ถึง
ฉากที่คิดว่ายากที่สุด จริงๆยากทุกซีน แต่สำหรับผม ผมว่าฉากที่เข้าไปอยู่ในห้องน้ำมันยากตรงที่ผมต้องทนเห็นนักแสดงของผมที่ผมแคร์มาก3คน ต้องไปอยู่ภายใต้สภาวะที่มันกดดันมากๆและต้องใช้ทั้งพลังงานร่างกายและจิตใจ ในฐานะที่เขียนบทเองและกำกับเองคิดว่าฉากนี้น่าจะช็อคคนดูได้มากที่สุด
ซีนแอ็คชั่น ดราม่า กดดันผสมเครียด!! นอกจากซีนแอ็คชั่น ยังมีซีนดราม่าด้วย มันค่อนข้างกดดันมาก กดดันในแง่เรื่องและตัวละครซึ่งมันส่งผลถึงนักแสดงด้วย ผมรู้เลยว่าเค้าเครียดกันมากจริงๆ แล้วทั้ง 3 คน เวลาอยู่ในกอง คิ้วจะขมวดเข้าหากันตลอดเวลา บางทีผมก็สงสาร แต่รู้ว่าเค้าเต็มใจที่จะเป็นแบบนั้น เพื่อให้ได้งานที่ดีที่สุด เราในฐานะผู้กำกับ บางทีก็เห็นใจทุกคนเหมือนกัน แต่ว่าเพื่องานที่ออกมาดีที่สุด ทุกคนก็ต้องเต็มที่ในพาร์ทของตัวเอง
เคาท์ดาวน์ สะกิดใจ เรื่องการใช้ชีวิต ผมเชื่อว่าประเด็นที่หนังพูดถึงมันมีอยู่ในตัวเราทุกคน เพียงแต่ว่าด้วยวัย ด้วยสังคมที่เราอยู่ทุกวันนี้มันทำให้เราลืมไปบ้าง บางครั้งเราแค่ต้องการคนซักคนที่เดินมาสะกิดแล้วบอกว่า เฮ้ย..อย่าลืมจุดประสงค์ของการใช้ชีวิตนะ และก็ผมอยากให้มันเป็นหนังที่คนดูดูแล้วรู้สึก คนที่ดูช่วงปีใหม่หรือช่วงท้ายปี ดูแล้วจะรู้สึกจริงจังกับการตั้งปณิธานปีใหม่ของตัวเองมากกว่าปีที่ผ่านๆมา คือผมเชื่อว่าทุกๆคน 90% ของคน ที่ชอบคิดว่าปีใหม่ฉันจะเลิกทำอย่างนี้ ปีนี้ฉันจะเลิกทำอย่างนั้น แต่พอผ่านไปจุดหนึ่งเราก็จะลืมกันไป ก็อยากให้คนที่ดูหนังเรื่องนี้รู้สึกว่า ทุกอย่างมันเริ่มต้นใหม่ได้ อะไรที่เราทำไม่ดีก็แก้ไข และทำให้มันดีจริงๆก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
เริ่มปีใหม่ กับหนังแนวใหม่ ทางเลือกใหม่ สำหรับผมว่าหนังเรื่องนี้เหมือนพรปีใหม่ที่ทำให้คนที่ได้ดูรู้สึกว่า การเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทิศทางที่ดีกว่าเป็นสิ่งสำคัญ และการที่มนุษย์จะมาเปลี่ยนตัวเองในทางที่ดีขึ้นมาได้ถือว่าเป็นพรที่วิเศษที่สุดแล้ว หนัง เคานท์ดาวน์ เป็นหนังเรื่องแรกของผม ต้องขอบคุณจีทีเอช ที่ให้โอกาสผู้กำกับน้องใหม่อย่างผม และต้องขอบคุณนักแสดง พีช-เต้ย-พีค ที่ยอมมาเล่นหนังเรื่องนี้ เพราะนักแสดงทั้ง 3 คน คือนักแสดง ที่ผมอยากร่วมงานด้วย ผมเชื่อมั่นทุกคนมาก วันที่ 3 คน มาอยู่ร่วมซีนเดียวกัน ผมรู้สึกว่า หนังเรื่องนี้มีพลังมากครับ อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กับหนังเรื่องแรกของผม และเป็นกำลังใจให้กับนักแสดงทุกคนที่ทุ่มเทและเหนื่อยมาด้วยกัน
No comments:
Post a Comment