ท็อปส์ดันส่งออกเพิ่มสินค้าตัวเอง ปั้น "มายช้อยส์ไทย"สู่ตลาดนอก
เซ็นทรัลฟู้ดรีเทล เพิ่มไลน์ผลิตสินค้าของตัวเอง ขยายตลาดส่งออก ชู “มายช้อยส์ไทย” และอื่นๆเจาะนักท่องเที่ยว ระบุความนิยมพุ่งดันยอดขาย 5 เดือนโต 50%
นายนิค ไรท์ไมเออร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายจัดซื้อสินค้า บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารร้านซูเปอร์มาร์เก็ต ท็อปส์ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ฯลฯ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนรุกขยายตลาดสินค้าโอนแบรนด์ หรือการผลิตภายใต้แบรนด์ของตัวเองมากขึ้น รองรับความต้องการของตลาดทั้งชาวไทยที่ให้ความนิยมสินค้าโอนแบรนด์มากขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มองหาสินค้าท้องถิ่นเป็นของฝากจากประเทศไทย การทำตลาดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบอัตราเติบโตเฉลี่ย 25%ต่อปี ขณะที่ 5 เดือนแรกปีนี้ เติบโตสูง 50% โดยล่าสุดได้พัฒนาแบรนด์ใหม่ “มาย ช้อยส์ ไทย”รวบรวมสินค้าโอทอปจากทั่วประเทศเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะ
ปัจจุบันเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล มีสินค้าแบรนด์ของตัวเอง (Own Brand) รวม 6 แบรนด์ ประกอบด้วย คุ้กกิ้ง ฟอร์ฟัน, มาย ช้อยส์, ท็อปส์, ถูกใจ, สมาร์เตอร์ และมาย ช้อยส์ ไทย มียอดขายกว่า 1,600 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา คาดปีนี้สร้างยอดขายรวม 2,000 ล้านบาท หรือมีสัดส่วน 7% ของยอดขายรวม คาดขยับเพิ่มเป็น 10% ในปีนี้ กลุ่มสินค้าดังกล่าวยังมีส่งออก เน้นทำตลาดในอังกฤษ เป็นหลักนับเป็นการต่อยอดทางธุรกิจ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาผู้ประกอบการทั้งในฮ่องกง สิงคโปร์ อังกฤษ เยอรมนี และเดนมาร์ก เพื่อเปิดตลาดเชิงรุกมากขึ้น สอดรับความนิยมสินค้าไทยของชาวต่างชาติในทั่วโลก
สำหรับแผนธุรกิจของเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ปีนี้ มีแผนขยายสาขา 34 สาขา ภายใต้งบลงทุน 800-1,000 ล้านบาท ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาเปิดให้สาขาใหม่แล้ว 14 แห่ง แบ่งเป็น ท็อปส์ มาร์เก็ต 3 สาขา ท็อปส์ เดลี่ 2 สาขา อีทไทย 1 สาขา ซูเปอร์คุ้ม 5 สาขา และซูเปอร์คุ้มขายส่ง 3 สาขา ปัจจุบันมีสาขาบริการ 129 สาขา ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 8-10% ปีนี้
MThai News
No comments:
Post a Comment