ป๊อปปี้ K
วันนี้ Open Eyes จะพา เพื่อนๆ ชาว Skoolbuz ไปทัวร์คณะสถาปัตยกรรม ศาสตร์ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการออกแบบสถาปัตยกรรม (หลักสูตรนานาชาติ) จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย หรือ INDA โดยมีหนุ่ม “ป๊อปปี้” หรือ นายภาณุ จิระคุณ สมาชิกแห่งวง K-OTIC ที่ มีเพลงฮิตติดชาร์ต ทั้งเพลง Free to play หรือ จะเป็นเพลง เหงาปาก ที่ร้องกันติดปาก ซึ่งวันนี้หนุ่มป๊อปปี้จะทิ้งมาดหนุ่มนักร้องนักเต้น มาเป็นนิสิตคณะสถาปัตย์ จุฬาฯ เพื่อที่จะพาทุกๆ คนไปทำความรู้จักคณะนี้ว่าจะน่าเรียนและน่าสนุกขนาดไหน ไปติดตามบทสัมภาษณ์กันได้เลย
ก่อนป๊อปปี้จะเข้ามหาวิทยาลัย ตั้งใจจะเรียนที่นี่ตั้งแต่แรกเลยหรือเปล่า ตอนเรียนไฮสคูลที่ ICS ผม ยังไม่ได้คิดที่เข้าเรียนสถาปัตย์เลยครับ ตอนแรกกะเอาไว้ว่าจะเข้าวิศวะ ผมก็เรียนทั้งฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เลข อย่างเต็มที่ แต่ไปๆ มาๆ ผมคิดว่าถ้าเราเรียนวิศวะเราจะต้องอยู่กับพวกสูตรแน่นอนเลย ซึ่งรู้สึกเป็นอะไรที่หุ่นยนต์ก็คิดได้ ..แต่ผม ไม่ได้ว่าวิศวะนะครับ (หัวเราะ) คือมันเป็นอะไรที่ผมคิดว่ามันอยู่ในกรอบ ก็เลยคิดว่าอยากทำอะไรที่มันสามารถดีไซน์เองคิดเอง ก็เลยคิดว่าสถาปัตย์น่าจะเหมาะที่สุด เพราะว่าสถาปัตย์เป็นวิชาที่ต้องคิดสร้างสรรค์ โดยมีขอบเขตวางอยู่ว่ามันต้องเป็นจริงได้นะ ตอนที่เข้ามาสอบ เราเข้าใจคำว่าสถาปัตย์ว่าอย่างไร แล้วพอเข้ามาเรียนมันเป็นยังไง ก่อนที่จะเข้ามาเรียน คำว่าสถาปัตย์ที่ผมเข้าใจ มันหมายความถึงการออกแบบสร้างสรรค์แต่ก็มีความเป็นจริงอยู่ พอได้เข้ามาเรียนจริงๆ ก็เป็นอย่างงั้นจริงๆ แต่มันมีอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้นเยอะครับ เพราะหลักสูตรที่ผมเรียนอยู่เป็นหลักสูตรอินเตอร์ก็จะมีการดีไซน์เข้ามาด้วย ไม่ใช่แค่เราอยากออกแบบยังไงเราก็ออกแบบได้ แต่มันต้องเข้ากับที่เค้าตั้งโจทย์มาให้เรา ต้องพัฒนามาจากสิ่งที่เค้าให้มา อย่างเช่นเขามีบทความมาให้เรา เราก็ต้องออกแบบมาเป็นโมเดลให้ได้ ซึ่งก็ยากกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลยครับ
สถาปัตย์ภาคอินเตอร์ที่นี่มีกี่สาขา ที่นี่มีสอนอยู่ 2 ภาค คือ อินด้า (INDA-International Program in Design and Architecture – หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาออกแบบสถาปัตยกรรม (หลักสูตรนานาชาติ)) และ คอมดี (CommDe-Communication Design – หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ (หลักสูตรนานาชาติ)) คอมดีจะเป็นเชิงออกแบบอุตสาหกรรม ออกแบบ Product Design แต่ของอินด้าที่ผมเรียนจะเน้นเรื่อง Interiorและ Architecture คือเน้นทั้ง การออกแบบและโครงสร้างด้วย ตอนปี 1 จะเรียน เรื่องดีไซน์ก่อน แต่เข้าสู่ปี 2, 3, 4 จะมี เรื่องโครงสร้างเข้ามาด้วย ก็จะมีเรียนแคลคูลัสกับฟิสิกส์ด้วย
แล้วคณะนี้สอบเข้ามายังไง สถาปัตย์จะเน้นการวาดรูป ก็จะมีสอบความถนัดด้านการวาดรูปครับ ต้องวาดภาพเปอร์สเปคทีฟให้เป็น ต้องดีไซน์ให้เป็น วาดโลโก้ให้เป็น ซึ่งตอนจะสอบเข้าก็ต้องฝึกมือด้วยการวาดภาพคน ต้นไม้ รถ พวกวาดภาพตีฟครับ แล้วมาสอบ CU-TAD เป็นการวัดระดับพื้นฐานด้าน การวาดเพื่อเข้าเรียนสถาปัตย์ และก็จะมีสอบวิชาพื้ฐาน CU-TEP, IELTS, TOFEL และก็ CU-ATT, SAT ก็คือสอบวัดผลพวกภาษาอังกฤษและเลขอ่ะครับ (ข้อมูลเพิ่มเติม – คณะสถาปัตย์ อินเตอร์)
ก่อนที่เราจะสอบ เราชอบการวาดรูปมาตั้งแต่เด็กหรือเปล่า ตอนเด็กๆ ผมก็ไม่ได้ชอบวาดรูปอะไรมาก แต่คุณพ่อคุณแม่ส่งผมไปเรียนวาดรูป เพราะเขาคืออยากให้เราเป็นไว้ พอโตขึ้นมาช่วงเรียนม.ปลาย ตอนว่างๆ ไม่มีอะไรทำ ผมก็จะเอาหนังสือการ์ตูนมา แล้วก็จะวาดตามหนังสือการ์ตูนครับ เพราะเราคิดว่าคนที่วาดการ์ตูนเขาเก่งมาก คิอเขาวาดตัวละครซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ออกมาเหมือนกันตลอดและเป็นเรื่องเป็นราวได้ รู้สึกชอบมากก็เลยลองทำไปเรื่อยๆ พอได้มาลองเรียนวาดรูปจริงๆ ก็เลยยังพอมีพื้นฐานอยู่บ้าง แต่สำหรับคนที่ต้องการเข้ามาเรียนสถาปัตย์ ก็ไม่ได้จำเป็นว่าต้องวาดรูปเพอร์เฟกต์ วาดรูปได้เหมือนจริง แต่ว่าถ้ามีไอเดียที่ดีและสามารถสื่อไอเดียของตัวเองลงมาในกระดาษด้วยการวาด รูปได้ก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับ ความรู้สึกแรกเมื่อรู้ว่าได้มาเรียนที่คณะนี้เป็นยัง ไงบ้าง ความรู้สึกแรกก็ดีใจมากๆ ที่รู้ว่าได้มาเรียนที่คณะสถาปัตย์ฯ จุฬาฯ ผมก็บอกคุณแม่คนแรกเลยว่าเราสอบติดแล้ว ที่คิดตามมาเลยก็คือว่างานมันต้องมากแน่เลย แล้วยิ่งเราทำงานอยู่ด้วยต้องมีซ้อมร้องเพลง ออกต่างจังหวัด ตอนนั้นก็เลยคิดว่าจะต้องทำยังไง ตอนนั้นผมก็เข้าไปเคลียร์คิวเลยว่า เรามีวันไหนเวลาไหนที่ต้องเข้าเรียน ก็ให้พี่ๆ เขาจัดคิวให้หน่อย แล้วรุ่นพี่ที่นี่เกือบทุกคนบอกมาว่างานเยอะมากๆ แล้วก็อาจจะไม่ได้นอน ตอนนี้ก็ไม่ได้นอนจริงๆ เลยครับ งานเยอะมากๆ แต่ว่าสถาปัตย์เนี่ยดีอย่างนึง คือตอนรับน้องอ่ะครับ รับน้องสนุกมากๆ และก็กิจกรรมของคณะเนี่ยสนุกมากๆ เลย และทุกคนที่นี่ก็เป็นกันเองมากครับ
รับน้องปีหนึ่งที่นี่เป็นยังไงบ้าง ตอนเข้ามาก็จะมีกิจกรรมหลักๆ 2-3 อย่าง คือจะมีให้วิ่งกันทุกวัน ก็จะวิ่งกันรอบสนามหน้าคณะ พี่ๆ ก็จะให้วิ่งไปร้องเพลงไป หลังจากนั้นก็จะมานั่งเชียร์กัน ก็จะมีพี่เชียร์กับพี่ว๊ากมาให้ร้องเพลงเชียร์ ซึ่งพี่ก็จะเตรียมธีมเพลงไว้ ซึ่งแต่ละวันเนี่ยจะเป็นธีมคนละอย่างกัน ก็จะมีคอฟเวอร์เดย์บ้าง แฟชั่นโชว์เดย์ แดนซ์เดย์ ฮิปพอพเดย์ คือแต่ละวันก็จะเปลี่ยนธีม แล้วพี่เขาก็จะหาอะไรตลกๆ มาให้ทำกัน แล้วพอเชียร์กันเสร็จแล้ว คนที่อยากอยู่ต่อก็จะมาเล่นรักบี้กัน ก็เป็นกีฬาประจำคณะสถาปัตย์ จุฬา พี่ๆ ก็จะเป็นคนสอนน้องๆ ก็จะให้ปี 1 แข่งกับปี 1 กันเอง หรือไปแข่งกับรุ่นพี่ ก็สนุกดีครับ ผลออกมาเป็นยังไงบ้างล่ะ ผลออกมาส่วนใหญ่ พวกเด็กปี 1ก็จะโดนรุ่นพี่ยับเลยครับ ก็จะช้ำกันนิดหน่อย แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ ก็จะรวมหัวกันพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ จนสู้พี่ๆ เขาได้้บ้างครับ
นอกจากรับน้องแล้วมีกิจกรรมอื่นๆ อะไรอีกบ้าง เข้ามาเรียนที่นี่ พี่ๆ เค้าก็ให้ช่วยงานหลายๆ อย่างครับ ก็มีรับน้องด้วย เคยไปเล่นฟุตบอลอินเตอร์เกมส์ เคยไปเป็นพิธีกรให้กับงานของมหาวิทยาลัย และล่าสุดก็ได้ไปร้องเพลงโปรโมตงานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ครั้งที่ 66 ด้วยครับ
เล่าเรื่องความสนุกในการทำกิจกรรมที่นี่ และก็ทำโปรเจกต์กับเพื่อนๆ ให้ฟังหน่อย งานของสถาปัตย์คือจะไม่ใช่อะไรที่แน่นอนครับ คือแต่ละคนก็จะมีแต่ละความคิด เพราะฉะนั้นเวลาทำงาน เราก็จะไปถามเพื่อนๆ แต่ละคนว่าคิดยังไงกับงานของเรา ก็จะมีการข่มกันบ้างครับ งานของเราดีกว่านะ อะไรอย่างเงี้ย (หัวเราะ) แต่ที่สำคัญคือจะเป็นการทำงานที่ต้องทำร่วมกันตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเวลามีอะไรเขาก็จะช่วยเหลือเรา ถ้าเราทำงานเสร็จเร็ว เราก็จะไปช่วยงานเขา แต่พอเราทำงานไม่ทัน เพื่อนเขาก็จะมาช่วยงานเราเวลาเขาทำเสร็จแล้ว แต่บางครั้งงานเขาไม่เสร็จเขาก็มาช่วยเราอยู่ดี ก็เป็นอะไรที่ีดีมากๆ เพราะว่าได้เพื่อนที่สนิทกันมากๆ แล้วก็ได้ช่วยเหลือเผื่อแผ่กันตลอดเวลาครับ และนอกจากจะมานั่งทำโปรเจกท์กันเกือบทั้งวันแล้ว ว่างๆ พวกเราก็จะไปเตะฟุตบอลกันครับ ตรงคอร์ทบอลข้างล่างตึกคณะสถาปัตย์ หรือบางทีก็ไปเล่นรักบี้กันที่สนามข้างหน้า หรือว่าวันไหนที่รู้สึกอยากเล่นเกมส์ก็ไปเล่นกันที่สามย่านเลยครับ
อยากฝากอะไรถึงน้องๆ ที่เขาอยากเรียนสถาปัตย์บ้าง ว่าน้องจะต้องเตรียมตัวยังไง อยากฝากถึงน้องๆ ว่าสถาปัตย์เป็นคณะที่น่าเรียนมากๆ สนุกมากๆ ด้วย และก็มีกิจกรรมหลายๆ อย่างที่สนุก เช่น ร่วมกันสร้างโมเดลไปร่วมกับงานบอล สร้างโมเดลงานรับปริญญาของรุ่นพี่ ก็สนุกมากๆ ครับ เพราะฉะนั้นใครที่อยากทำกิจกรรมที่สนุกๆ แบบนี้ก็ ไม่ใช่แค่สนุกอย่างเดียว แต่ก็ได้ความรู้เยอะด้วย ก็ฝึกมือกันเยอะๆ วาดรูปให้เก่งๆ แล้วก็ต้องตั้งใจเรียนด้วยครับ
ที่มาจาก http://www.skoolbuz.com
No comments:
Post a Comment