ประวัติ แจ๊ค หม่า มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศจีน 8แสนล้านบาท
หนุ่มนักธุรกิจ แจ๊ค หม่า ก้าวสู่มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศจีน
ภาพจาก wikipedia
หลายๆ ตนในช่วงนี้อาจจะได้ยินชื่อ แจ๊ค หม่า กันมาบ้างไม่มากก็น้อย เพราะว่าล่าสุดก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศจีน หลังบริษัทอาลีบาบาเข้าตลาดหุ้นในนิวยอร์คเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจากรายงานนายหม่ามีทรัพย์สิน รวมมูลค่าทั้งสิ้นราว 8 แสนล้านบาท ซึ่งมากขึ้นกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
โดยบริษัทอาลีบาบาอาลีบาบา ตั้งขึ้นในปี 1999 ซึ่งเป็นรูปแบบบริษัทอีคอมเมิร์ชชื่อดังของจีน และวันนี้ทาง Men.MThai เราจะขอนำเสนอประวัติของมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศจีน คนนี้ให้เพื่อนๆ รู้จักกันซะหน่อย
ภาพจาก AFP
แจ๊ค หม่า เป็นคนเชื้อสายจีน เกิดที่เมืองหางโจว ในสมัยเด็กเขาสนใจที่จะศึกษาภาษาอังกฤษมากกว่าสิ่งใด ช่วงเริ่มต้นอาชีพเขาจึงเป็นครูสอนภาษาอังกฤษและได้รับเงินเดือนเพียง 500 บาท แต่ก็ทำให้เขาเป็นคนจีนที่เก่งภาษาอังกฤษอย่างหาตัวจับยากทีเดียวในประเทศจีนยุคนั้น
ภาพจาก lider
วิสัยทัศน์ของแจ็ค หม่า เริ่มต้นจากการที่เขาไปเยี่ยมเพื่อนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและเขาลองให้เพื่อนค้นหาสินค้าเป็นภาษาจีน ปรากฎว่าไม่พบผลการค้นหานั้น ทำให้เขาได้ค้นพบช่องว่างทางธุรกิจที่มหาศาล ในปี 1995 เขาก่อตั้งบริษัทไชน่าเยลโล่เพจเจส ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตแรกสุดในประเทศจีน หลังจากนั้นปี 1999 เขาได้ก่อตั้งบริษัท Alibaba ด้วยวิสัยทัศน์ด้านอีคอมเมิร์ซ ต่อมาได้ขยายเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องออกไปเรื่อยๆ หนึ่งในนั้นที่คนไทยรู้จักกันดีคือ Taobao.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ลักษณะที่ให้คนทั่วไปมาลงขายสินค้าได้ นอกจากนี้ยังมีบริษัทย่อยเด่นๆอีกเช่น Tmall, Aliexpress, Aplipay, Juhuasuan, 1688.com, eTao, Alibaba Cloud Computing
ภาพจาก China Daily
และในปี 2012 ได้มีธุรกรรมซื้อขายผ่าน Alibaba รวมทั้งสิ้น 1 ล้านล้านหยวน(ประมาณ 5 ล้านล้านบาท) โดยแจ็ค หม่านำบริษัท Alibaba เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและทำสถิติ IPO ที่ระดมเงินได้สูงสุดในประวัติการณ์ของตลาดหุ้นสหรัฐ ในวันแรกที่ซื้อขายมูลค่าบริษัท Alibaba พุ่งสูงถึงกว่า 200 พันล้านเหรียญ(6 ล้านล้านบาท) แซงหน้ายักษ์ใหญ่อย่าง Amazon และ eBay ส่งผลให้เขากลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งคนใหม่ของประเทศจีนในทันที
ภาพจาก Associated Press
สาเหตุที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ ก็ด้วยตลาดผู้บริโภคจีนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั่นเอง ทำให้หลายบริษัทจากต่างประเทศที่เข้ามาทำธุรกิจต้องปรับตัวกันใหญ่ จนถึงถอนตัวกลับบ้านเลยก็มี โอกาสจึงเป็นของ แจ็ค หม่า เข้ากับทำนองที่ว่า “คนจีนเข้าใจคนจีน” มากกว่า โดยบริษัท Alibaba Group มี 3 เว็บคือ
- alibaba.com ที่มีลักษณะธุรกิจแบบขายส่งระหว่างบริษัท ( B2B)
- taobao.com ที่มีลักษณะธุรกิจแบบขายปลีกระหว่างลูกค้า
- tmall.com ที่มีลักษณะธุรกิจที่ให้แบรนด์สินค้าต่างๆมาเปิดร้านบนเว็บไซต์
No comments:
Post a Comment